M33GROUP3

 

 

สมาชิก

การสูญเสียอำนาจและอิทธิพลทางการเมืองและทางเศรษฐกิจของประเทศในยุโรป เปิดเวทีการเมืองโลกให้แก่สองประเทศอภิมหาอำนาจ คือสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต
สหรัฐอเมริกา เป็นประเทศซึ่งเสียหายน้อยกว่าประเทศคู่สงครามในยุโรป ทั้งยังเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีสูง ประกอบกับเป็นประเทศแรกที่สามารถผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงมีความต้องการเป็นผู้นำเพื่อพิทักษ์ไว้ซึ่งวิถีประชาธิปไตยและเสรีภาพของโลก
ส่วนสหภาพโซเวียต ซึ่งแม้จะบอบช้ำจากสงครามโลก แต่ก็ฟื้นตัวจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้อย่างรวดเร็ว เพราะมีพื้นที่กว้างใหญ่ มีทรัพยากรมาก ต่อมาก็สามารถผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้ และประสบความสำเร็จในการขยายลัทธิคอมมิวนิสต์สู่กลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก พร้อมต้องการเป็นผู้นำในการปฏิวัติโลกเพื่อสถาปนาลัทธิคอมมิวนิสต์
บทบาทของอภิมหาอำนาจของสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต มีดังนี้

  1. สหรัฐอเมริกา เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง สหรัฐอเมริกาอยู่ในฐานะที่มีเศรษฐกิจมั่นคั่งมากได้เข้าไปช่วยเหลือประเทศที่เสียหายจากภัยสงคราม เป็นผู้นำฝ่ายโลกเสรีประชาธิปไตย และเฝ้ามองการเคลื่อนไหวของสหภาพโซเวียตที่เป็นผู้นำฝ่ายคอมมิวนิสต์ ซึ่งกำลังมีนโยบายจะขยายอำนาจและอิทธิพลของลัทธิคอมมิวนิสต์เข้าไปยังส่วนต่างๆ ของโลก เช่น สหภาพโซเวียต เข้าไปมีบทบาทและควบคุมประเทศในยุโรปตะวันออก เป็นต้น สหรัฐฯ จึงดำเนินนโยบายสกัดกั้นลัทธิคอมมิวนิสต์
  2. ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1947 เฮนรี่ เอส. ทรูแมน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศ “วาทะทรูแมน” (Truman Doctrine) ด้วยวัตถุประสงค์ที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศต่างๆ เพื่อรักษาเอกราช และอธิปไตยให้พ้นจากการคุกคามของคอมมิวนิสต์ วาทะทรูแมนนี้เอง ถือได้ว่าเป็นการเริ่มต้นของสงครามเย็น และได้จัดตั้งองค์การสนธิสัญญาป้องกันร่วมกัน แอตแลนติกเหนือ หรือเรียกว่า “นาโต้” ขึ้น เพื่อสร้างความร่วมมือทางทหารต่อต้านคอมมิวนิสต์ สหรัฐฯ เริ่มเข้าไปติดตั้งขีปนาวุธให้กับยุโรปตะวันตก และตั้งแนวป้องกันลัทธิคอมมิวนิสต์ทั่วโลก
  3. ในปี ค.ศ. 1962 สหภาพโซเวียตพยายามจะเข้าไปมีบทบาทและอิทธิพลในเลบานอน สหรัฐฯ ก็ส่งกองกำลังของตนมาประจำที่ชายหาดของเบรุตเพื่อผลักดันให้สหภาพโซเวียตถอนตัวออกไป และในปีเดียวกัน เครื่องบินจารกรรมของสหรัฐฯ ค้นพบฐานยิงจรวดของสหภาพโซเวียตบนเกาะคิวบา สหรัฐฯ ก็บีบให้โซเวียตถอนฐานจรวดออกไปจากคิวบา โดยให้สัญญาว่า เมื่อถอนออกไปแล้ว สหรัฐฯ จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคิวบาอีก
  4. ในปี ค.ศ. 1950 สหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียวเท่านั้นที่มีระบบป้องกันการถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อมิให้เกิดการถล่มกันด้วยอาวุธนิวเคลียร์ และเป็นการสกัดกั้นการทดลองนิวเคลียร์ สหรัฐฯ สหภาพโซเวียต และอังกฤษ ได้ลงนามในสัญญาห้ามการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ และตกลงกันว่าจะเลิกทดลองอาวุธนิวเคลียร์ ในบรรยากาศสำหรับภูมิภาคอินโดจีน นับตั้งแต่ฝรั่งเศสได้ถอนตัวออกไป เนื่องจากพ่ายแพ้สงครามที่เดียนเบียนฟู

 

เว็บเพจผลงานนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/3 กลุ่มที่ 3

โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง เว็บเพจนี้ใช้เพื่อนำเสนอเืนื้อหา